กล่อง BCM คืออะไร ???

กล่อง BCM (Body Control Module)

 

อ่านว่า ‘บอดี้คอนโทรลโมดูล’  คือ กล่องควบคุมตัวถัง ถ้าเป็นรถรุ่นเก่ากล่องที่ว่านี้จะมีเพียงแค่ ฟิวส์ และรีเลย์กับขั้วต่อสายกล่อง และสายไฟที่ต่อจุดนี้จะยุ่งเหยิงมาก ๆ กล่อง BCM ทำหน้าที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก แต่ลดการใช้สายไฟลง ซึ่งจะมีในรถรุ่นใหม่ในปัจจุบันแทบทั้งหมด

นอกจากการควบคุมแล้ว เจ้าตัวกล่อง BCM ยังทำหน้าที่ ป้องกันการลัดวงจร หากเกิดการลัดวงจร ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีฟิวส์อีกต่อไป และหากเกิดการผิดพลาด เช่น เกิดการช็อตหลอดไฟขาดหรือไม่ได้ขนาดวัตต์ มันจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปที่หน้าปัดแจ้งเตือนหรือส่งโค้ดไปที่ระบบ CAN BUS (แคนบัส) เพื่อใช้อ่านปัญหาและวิเคราะห์ข้อผิดพลาด นอกจากนี้มันยังสามารถสั่งให้เปิดปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ จากภายนอกด้วยระบบ CAN ได้อีกด้วย

 

 

ภายในตัวกล่อง BCM

ประกอบไปด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ภาคจ่ายไฟ/ภาคประมวล/ภาคพาวเวอร์เอาต์พุต สิ่งสำคัญสำหรับตัวกล่อง BCM ที่ควรระวังคือ ความร้อน ความชื้น และการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้การทำงานของกล่อง BCM ผิดพลาดหรือเสียหายได้

 

แหล่งจ่ายไฟ BCM

มีสายอยู่ประมาณสี่เส้น เป็นแหล่งจ่ายไฟทั้งบวกและลบเพื่อมาเลี้ยงวงจร ซึ่งอาจจะผ่านมาจากกล่องฟิวส์อีกที เพื่อที่จะต้องมีกระแสไฟที่เพียงพอให้อุปกรณ์ต่าง ๆ

 

สวิทซ์ต่าง ๆ  (Input)

เป็นอินพุตคำสั่งที่จะให้กล่องทำงานเพื่อจ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ หลอดไฟ รีเลย์อื่น ๆ คำสั่งนี้ได้มาจากการที่เราเปิดสวิตช์ไฟเลี้ยว หรือไฟหน้า ที่พวงมาลัย ซึ่งโดยทั่วไปสวิตช์นี้ มีหน้าที่ประมาณ 20 หน้าที่ เช่น ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเลี้ยว ที่ปัดน้ำฝน แต่สัญญาณที่สั่งมานั้นใช้สายไฟเพียง 2 เส้น ในการสั่งงาน (ระบบ CAN) และรถบางคันอาจะใช้เพียงเส้นเดียวในระบบลิน (LIN) ซึ่งทั้งสองระบบมีความน่าเชื่อถือ และแม่นยำอย่างมาก

 

เอาท์พุต (Output)

เป็นส่วนที่ต่อออกไปเพื่อใช้กับระบบไฟ ไม่ว่าจะเป็น ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ ไฟหน้า มอเตอร์ต่าง ๆ มอเตอร์ปัดน้ำฝน ฉีดน้ำล้างกระจก รถบางคันอาจรวมไปถึงมอเตอร์เปิดปิดกระจกด้วย หาก Output มีการใช้งานผิดปกติ เช่น หลอดไฟขาดหรือการลัดวงจรหรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนหลอดไฟที่ไม่ได้ขนาด กล่อง BCM จะทำหน้าที่แจ้งเตือนหรือตัดการทำงาน

 

การรายงานผลของกล่อง BCM (Diagnostic)

รายงานผลเป็นส่วนที่ต่อมาเพื่อส่งสัญญาณเตือน หรือส่งข้อมูลความเสียหาย กระทั่งกระตุ้นการสั่งงานจากเครื่องสแกน OBD เพื่อใช้ในการทดสอบวงจรต่าง ๆ ว่า ปกติดีหรือไม่

 

 

หากเราไม่มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เราอาจจะไม่รู้ว่าสาเหตุนั้นแท้จริงเกิดจากอะไร ทำให้ช่างต้องเสียเวลารื้อเครื่องเยอะจนยุ่งหนักกว่าเดิม แต่เครื่อง OBD ที่ได้มาตรฐานจะมีโหมด “Active test” เพื่อใช้ในการทดลองกระตุ้นหรือเปิดระบบต่าง ๆ ให้รู้สาเหตุได้ไวยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาช่าง แถมซ่อมได้ตรงจุด

 

 

สนใจสั่งซื้อ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

LINE @ : @PEautotrade

เรื่องเครื่องแสกนให้เราช่วยคุณ